จากการลองศึกษาวิเคราะห์บอลให้ได้ประสิทธิผล มาเริ่มแรกในเรื่องแรงจูงใจ ต้องขอยกตัวอย่าง ในการณีของ ค๊อตบุส กับ โวลฟ์บวร์ก โวลฟ์บวร์กต่อ ครึ่งควบลูกหรือ1ลูก โดยคอตบุสหนีตกชั้น และโวลฟ์บวร์กล่าแชมป์ เสต็บแรกที่สำคัญในการวิเคราะห์บอล เรื่องแรงจูงใจ คอตบุสมีแรงจูงใจสองอย่าง คือ ต้องการหนีตกชั้นหรือการเชียร์เป็นเจ้าบ้าน ส่วนของโวลฟ์บวร์ก มีแรงจูงใจ สองอย่างเหมือนกัน บาเยินสะดุดและต้องการชนะเพื่อความปลอดภัยในการเป็นแชมป์
ในกรณีนี้ น้ำหนักเรื่องแรงจูงใจ แบบไหน จะหนักกว่ากัน จากการวิเคราะห์บอล ผลสรุปออกมาฃัดเจนมาก เหล่าเซียนที่ทำการวิเคราะห์บอลให้แต่โวลฟ์บวร์กกัน 90% เมื่อมาหาข้อผิดพลาดในเกมส์นี้คืออะไร โวฟล์ตัวผู้เชียร์ดีกว่า เมือหักลบค่าความสามรถของผู้เชียร์ ระหว่างโวลฟ์บวร์กกับคอตตุสแล้ว ตอนนี้ไม่สำคัญเลย เมื่อคอตบุส เป็นเจ้าบ้าน และอยู่ในสภาวะหนีตกชั้น
จากการที่ footyhint.com/วิเคราะห์บอล เมื่อมองถึงความหนักของคอตบุตแล้ว ก็พอดูสูสีกับความหนักของโวลฟ์บวร์กเช่นกัน อีกทั้งโวลฟ์บวร์กยังได้เปรียบนิดๆเรื่องฟอร์มการเชียร์ ฉะนั้นไม่ผิดที่เหล่าเซียนจะเทคะแนนไปยังเจ้าหมาป่า แต่เมื่อมามองราคาของเจ้าหมาป่าแล้ว ถือว่าแพงอย่างมากทีเดียว ผมว่านี่แหละมันน่าจะเป็นตัวชี้ % ว่าจะวางทีมใด ทั้งที่แรงจูงใจ มันเบียดกันอยุ่แค่นิดเดียวแต่ราคาที่โวลฟบวร์กใส่มา มันจะทำให้ทีมที่น่าเชียร์ คือ “คอตบุส” วันนี้ผมก็พลาด ไปมองแต่ฟอร์มการเชียร์ของโวลฟ์และแรงจุงใจเรื่องที่บาเยินแพ้ ก็เลยใส่ โวลฟ์ไปเต็ม จุกครับ
สุดท้ายบอลลูกกลมๆ คำพูดนี้อาจจะใช้ได้เมื่อไหร่ก็ได้ บอลมันแค่แพ้ชนะเสมอแต่การวิเคราะห์บอลก็เหมือนกับเป็นการฝึกสมองและวัดความสามารถของตัวเองในการวิเคราะห์ข้อมูลในเรื่องอื่นๆในชีวิตประจำวันหรือการงานดีกว่าปล่อยให้สมองว่างปล่าว
